วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ฉลาดกว่า?

เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมฝรั่งถึงฉลาดกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ

สงสัยมานานแล้วครับ เคยมีงานวิจัยชิ้นไหนวิเคราะห์รึเปล่าครับว่าทำไมฝรั่งถึงฉลาดที่สุด นักวิทยาศาสตร์สำคัญของโลก อย่าง ไอสไตน์ นิวตัน ฮอบกินส์ ทำไมคนเอเชียหรือผิวดำถึงไม่มี ที่สามารถคิดพวก e=mc^2 diff intregrate สมการไฟฟ้า เทอร์โมไดนามิก สมการทุกอย่างในโลก ประดิษฐ์รถไฟ เครื่องยนต์ เครื่องจักรกล หลอดไฟ โทรศัพท์ ทุกอย่างที่เราใช้ฝรั่งคิดหมด หรือเอาง่ายๆอย่าง เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ก็ได้ครับ youtube google ebay เว็บไซด์พวกนี้คงมีหลายๆคนคิดได้และอยากทำ เพราะทุกคนใช้ประโยชน์ได้หมด แต่ทำไมฝรั่งถึงทำออกมาได้ พวกระบบปฎิบัติการ windows เหมือนกัน ทำไมพวก อินเดีย ญี่ปุ่น ทำแล้วไม่ดังและใช้ง่ายเหมือนฝรั่ง จะว่าไปแล้วฝรั่งเริ่มมาครองโลกเมื่อยุคอาณานิคมเท่านั้นประมาณไม่เกิน400ปี ทำไมชนชาติที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาก่อนอย่าง อียิปต์ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย แอฟริกา เปอร์เซีย คิดนวัตกรรมออกบางอย่าง
แต่ก็นิดเดียวเท่า นั่นและต่อยอดออกไปได้ไม่เท่าฝรั่ง ขนาดโลกยุคปัจจุบันหลายๆประเทศเริ่มเท่าเทียมกันแล้ว แต่คนได้รับรางวัลโนเบลร้อยละ95 ยังเป็นฝรั่งอยู่ทุกปีเลยครับ จะบอกว่าเค้าแบ่งแยกคงไม่ใช่เพราะทุกคนมีงานวิจัยชัดเจน คนเอเชียกับคนดำได้แค่สันติภาพกับวรรณกรรมเท่านั้น การแพทย์ ฟิสิกส์ เคมี เศรษฐศาสตร์ นอกจากฝรั่งได้กันไม่ถึง3%เลยด้วยซ้ำ
ขอต่ออีกนิด อย่างประเทศในโลกนี้ ประเทศไหนมีฝรั่งผิวขาวส่วนมากเจริญหมด อเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา พวกนี้มีแค่คนไม่มีอะไรจะทำได้ในบ้านเกิดจึงอพยพไป หลายร้อยปีผ่านไปเป็นหนึ่งในมหาอำนจของโลกได้
เกาหลี ญี่ปุ่น จีน ที่ว่าชั้นนำของเอเชียยังได้แค่เลียบแบบแล้วมาพัฒนาให้ดีขึ้นเลยครับ คิดเองยังไม่ค่อยจะได้

พูด มาตั้งยาวเพราะติดอยู่ในใจมานาน สงสัยอ่ะครับว่าทำไมฝรั่งถึงฉลาดกว่าคนเอเชียกะคนดำ เคยมีงานวิจัยไหมครับ หลายๆท่านคิดว่าอย่างไรครับ

Comments:
1. ยังไม่เคยอ่านงานวิจัยไหนที่บอกว่า..ฝรั่งฉลาดที่สุดนะคะ
ถ้ารวบรวมวิเคราะห์ด้วยตนเอง..อาจจะต้องวิเคราะห์ถึงปัจจัยภายนอกด้วย
ในยุคนั้น..สภาวะการณ์นั้น..ปัจจัยและความพร้อม เอื้อต่องานต่างกันหรือเปล่า?
และสื่อของใครเด่นกว่ากัน?..จะพบว่ามี confounding variables มากมาย
อาจจะต้องวิเคราะห์สิ่งเหล่านี้ประกอบด้วย..

:)

2. สงกรานต์กุลี สงสารผู้ดี

โดย ( ตู้ ) จรัสพงษ์ สุรัสวดี

........................................

" ยุโรป ตะวันตกใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมีการเลือกตั้ง โดยยังมีสถาบันกษัตริย์ เพราะใช้ระบอบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ไม่ใช่ทุนนิยม จึงไม่มีนายทุนคอยชักใยให้ล้มสถาบันกษัตริย์ นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ อารยันทั้งนั้นครับ

เผ่าเดียวกันนี้ ที่ล่องเรือไวกิ้งไปทั่วโลก ไม่กินแป้งเพราะอยู่บนเรือตลอด ลงจากเรือแล้วก็กินสัตว์ใหญ่ ได้อะดรินาลินที่สัตว์ใหญ่หลั่งออกมาขณะถูกฆ่าทำให้ฮึกเฮิม ก้าวร้าว ผิดกับพวกที่กินแป้ง ที่เอาแต่นอน

อารยันเป็นเผ่าพันธ์ที่แก้ไข ทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ยอมจำนน ประเพณีใดไม่เข้าท่า ไม่เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป วรรณะใดไม่เหมาะสมกับสังคม กำจัดและแก้ไขหมด พัฒนาการจึงเกิดอย่างรวดเร็วในซีกโลกนั้น ประกอบศาสนาที่ไม่สอนให้ยอม เป็นสำคัญ

ตรงกันข้าม เผ่าพันธุ์ที่กินแป้งเป็นหลัก ยอมจำนนทุกปัญหา ไม่กล้าแก้ไข พัฒนาการจึงเป็นไปในทางลบ ประเพณีที่สวยงามก็ถูกพวกหยาบช้า นำมาทำเป็นบันเทิงในหมู่ที่ต่ำชาติตระกรูล เมื่อผู้ดีไม่มีความกล้า เพราะกินแป้งแล้วนอน แผ่นดินก็อยู่ในมือจัณฑาล ซึ่งอ้างว่าพวกมากกว่า ประกอบกับระบอบประชาธิปไตยที่ใช้เสียงข้างมาก ผู้ดีที่เสียงน้อยกว่า ก็ไร้น้ำยาไปโดยปริยายนั่นเองครับ"

........................................
สงกรานต์กุลี สงสารผู้ดี

โดย ( ตู้ ) จรัสพงษ์ สุรัสวดี

มติชนรายวัน เสาร์ 12 เมษายน 2551

เรียน บรรณาธิการมติชน

สมัย จอมพลสฤษดิ์ พวกนี้ไม่มีสิทธิสาดน้ำใส่ชาวบ้านบนถนนโดยไม่ขออนุญาตเจ้าตัวนะครับท่านผู้ อ่าน ไม่มีจิ๊กโก๋แซวหญิง ไม่มีฆ่าข่มขืน ไม่มีผรุสวาทในสภา ไม่มีจาบจ้วงผู้หลักผู้ใหญ่ของแผ่นดิน บริหารประเทศแบบเด็ดขาด ที่พวกบ้าลัทธิคอมมิวนิสต์เรียกว่า เผด็จการ ทั้งๆที่คอมมิวนิสต์เองก็เผด็จการและลูกหลานคอมมิวนิสต์เองก็หนีเผด็จการ คอมมิวนิสต์ที่ขับไล่กษัตริย์ มาอาศัยร่มพระบรมโพธิสมภารแล้วก็ดัดจริตคิดขับไล่กษัตริย์ไทย จะให้เป็นคอมมิวนิสต์บ้างซะอย่างนั้น

คอมมิวนิสต์เหล่านี้ใช้ขบวน การ ประชาธิปไตยบังหน้า เรียกร้องให้รากหญ้ามีสิทธิเท่าเทียมคนที่เสียภาษี โดยไม่ต้องเรียนหนังสือ ท่องได้แค่ ประชาชนต้องเป็นใหญ่ในแผ่นดิน แล้วชนชั้นล่างก็กร่างมาจนวันนี้

จากนั้นมาการเล่นสงกรานต์ก็หมด ความ สวยงาม จัณฑาลก็กร่างเต็มถนน บนเทศกาลที่เคยสวยงามโดยอ้างประเพณี ที่มีสิทธิจะลามปามใครก็ได้ เป็นวันเดียวที่สิทธิเท่าเทียมกันเฉกเช่นวันลงคะแนนเสียง

ปัญหามา จาก ผู้ดีทั้งหลาย ที่ยอม เพราะแหยครับ การศึกษาไทยทำให้คนแหย ยิ่งเรียนยิ่งแหยเพราะสถาบันศึกษาไม่เคยเพาะบ่มความกล้า กุลีไม่เรียน ก็ไม่โดนไม้เรียว ไม่โดนกดขี่ทางความคิด ไม่โดนครูบาอาจารย์ตวาด ไม่โดนเช็คชื่อ ก็ขาแข็งกว่าบัณฑิต กล้ากว่า ทั้งๆที่โง่กว่า

สังคม ใดที่คนโง่กล้า มีบทบาทและจำนวนมากกว่าคนมีการศึกษาที่ขี้ขลาด สังคมนั้นต้องล่มสลายในที่สุดครับ ทางแก้ ไม่ใช่การทำคนโง่ที่กร่างให้ฉลาดและเจียมตัว เพราะเป็นไปไม่ได้ในระบอบดัดจริตนี้ที่รัฐบาลจากการเลือกตั้งต้องเลี้ยงไข่ ให้กุลีโง่ไว้เพื่อใช้ซื้อเสียง แต่ทางแก้ที่ถูกต้องคือ การทำคนที่เรียนหนังสือให้กล้าซึ่งยากยิ่งกว่าการแก้รัฐธรรมนูญซ้ำซากอีก ครับ

สำหรับเมืองพุทธ ที่สอนให้คนยอมอย่างเดียวมายาวนาน ตั้งแต่อัลไตโน่น

เพราะ การศึกษาของเราสอนผิด ให้คิดว่า คนมีการศึกษาต้องไม่กร้าวร้าว ก็กลายเป็นแหยไปเลยไงครับ การกร้าวร้าวกับผู้ที่ไร้มารยาท เป็นคุณสมบัติของบัณฑิตยุโรปที่สอนกันเป็นพันปีต่อเนื่องมา พาให้หลายชาติเป็นมหาอำนาจในอดีต ที่บัณฑิตใช้แส้คุมกุลีลงเรือมายึดเมืองขึ้นแถบบ้านเราได้ สิงคโปร์เองยังใช้ระบบนี้จนถึงวันนี้ ที่อังกฤษปลูกฝังไว้ให้ คือ ขับไล่กุลีออกจากประเทศ นำเข้ามาใช้งานเป็นครั้งคราวแล้วตะเพิดออกไปคืน ประชากรสันดานกุลีที่เหลือในประเทศต้องเรียนหนังสือ ถ้าดื้อ เฆี่ยน

ยุโรป ตะวันตกใช้ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมีการเลือกตั้ง โดยยังมีสถาบันกษัตริย์ เพราะใช้ระบอบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ไม่ใช่ทุนนิยม จึงไม่มีนายทุนคอยชักใยให้ล้มสถาบันกษัตริย์ นอร์เวย์ สวีเดน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ อารยันทั้งนั้นครับ

เผ่าเดียวกันนี้ ที่ล่องเรือไวกิ้งไปทั่วโลก ไม่กินแป้งเพราะอยู่บนเรือตลอด ลงจากเรือแล้วก็กินสัตว์ใหญ่ ได้อะดรินาลินที่สัตว์ใหญ่หลั่งออกมาขณะถูกฆ่าทำให้ฮึกเฮิม ก้าวร้าว ผิดกับพวกที่กินแป้ง ที่เอาแต่นอน

อารยันเป็นเผ่าพันธ์ที่แก้ไข ทุกอย่างที่ขวางหน้าไม่ยอมจำนน ประเพณีใดไม่เข้าท่า ไม่เข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป วรรณะใดไม่เหมาะสมกับสังคม กำจัดและแก้ไขหมด พัฒนาการจึงเกิดอย่างรวดเร็วในซีกโลกนั้น ประกอบศาสนาที่ไม่สอนให้ยอม เป็นสำคัญ

ตรงกันข้าม เผ่าพันธุ์ที่กินแป้งเป็นหลัก ยอมจำนนทุกปัญหา ไม่กล้าแก้ไข พัฒนาการจึงเป็นไปในทางลบ ประเพณีที่สวยงามก็ถูกพวกหยาบช้า นำมาทำเป็นบันเทิงในหมู่ที่ต่ำชาติตระกรูล เมื่อผู้ดีไม่มีความกล้า เพราะกินแป้งแล้วนอน แผ่นดินก็อยู่ในมือจัณฑาล ซึ่งอ้างว่าพวกมากกว่า ประกอบกับระบอบประชาธิปไตยที่ใช้เสียงข้างมาก ผู้ดีที่เสียงน้อยกว่า ก็ไร้น้ำยาไปโดยปริยายนั่นเองครับ

ประชาธิปไตยที่ใช้เสียงข้างมาก จึงต้องใช้ในประเทศที่แน่ใจว่า เสียงข้างมากนั้นมีคุณภาพก่อนเอาระบอบเข้ามาใช้ ไม่เช่นนั้น จะมีแต่ตกต่ำ เพราะจัณฑาลจะกุมอำนาจแผ่นดินโดยเบ็ดเสร็จครับ

สงกรานต์เป็นเครื่องชี้วัดว่าวรรณะใดมีอำนาจเบ็ดเสร็จในแผ่นดินวันนี้

กุลี ไหนสาดน้ำใส่ผมโดยไม่ขออนุญาต ผมจะยิงสวน เพราะผมเป็นผู้ดีที่ไม่แหยครับ เคยแหยตอนสงกรานต์แล้ว ไม่คุ้มครับ ปอดบวม ผู้คนคิดว่าเป็นกระเทยไปโน่น

ถ้ายอมให้กุลีมีส่วนในจารีตที่สูงส่งระดับชาติ ไม่ว่าประเพณีหรือเลือกตั้ง จะพังถึงของสูงในที่สุดครับ

(ตู้) จรัสพงษ์ สุรัสวดี
มติชนรายวัน เสาร์ 12 เมษายน 2551
http://atcloud.com/stories/36104

3. บทสัมภาษณ์ซูโม่ตู้ทอลค์โชว์

1. เหตุผลของพี่ตู้ในการจัดทอล์คโชว์ครั้งนี้คืออย่างไรครับ ?

เพราะพี่อิจฉารากหญ้าครับ
การที่อนุญาตให้คนที่ไม่เรียนมีสิทธิเท่าเทียมคนที่เรียน เป็นกติกาสากลสำหรับ
ประเทศที่ระดับการศึกษาเฉลี่ยสูงถึงขั้นปลอดภัยแล้ว
การเลือกตั้งของเค้าจึงเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานได้
ซึ่งไม่ถูกต้องสำหรับประเทศที่การศึกษาเฉลี่ยต่ำครับ
เพราะจริงๆแล้วสิทธิขั้นพื้นฐานเดิมนั้นกำหนดเฉพาะเรื่องพื้นฐาน เช่น
การนับถือศาสนา การสาธารณะสุข การแสดงความคิด การสมรส
สวัสดิภาพในการดำรงชีวิต ฯลฯ รวมไปถึง การศึกษา
แต่ไม่รวมการเลือกตั้งเข้าไปในสิทธิขั้นพื้นฐานครับ
อันตรายต่อความอยู่รอดของบางเผ่าพันธุ์ในทันที
แต่เผ่าพันธุ์นั้นๆจะไม่ค่อยรู้
เพราะดันไปสงสารเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์ที่ควรกำจัดเพราะเป็นภาระ
เราไม่ได้เกรงใจภาระเพราะเราใจดีนะครับ
เราเกรงใจภาระเพราะเราขี้ขลาด เราเกรงกลัวพวกภาระครับ
ภาระจึงได้ใจ ครอบครองเมืองโดยไม่ยอมพัฒนาพวกตน
พี่อิจฉามันครับ

เมื่อการศึกษาคือสิทธิขั้นพื้นฐาน
ใครไม่ยอมเรียนก็ต้องถือว่าผู้นั้นละเลยสิทธิขั้นพื้นฐาน
ก็แปลว่าบกพร่องในหน้าที่ซึ่งโยงกับบางสิทธิ
ผู้บกพร่องในหน้าที่ก็ควรถูกเพิกถอนบางสิทธิที่เกี่ยวข้อง เช่น
สิทธิในการตัดสินใจเรื่องอนาคตของประเทศชาติ
เพราะเราจำเป็นต้องกำหนดที่การศึกษาครับ
ไม่ใช่กำหนดที่อายุเหมือนประเทศพัฒนา ตายซิ่
ระดับการศึกษาเฉลี่ยของเราต่ำกว่ามาตรฐานประเทศประชาธิปไตยในโลกครับ
ไม่ต้องอาย ต่ำกว่ามากเลยจริงๆ ต้องยอมรับ
ต้องแก้กติกาครับ ไม่งั้นตาย หลายศพแล้วด้วย
และจะมีอีกครับถ้าไม่รีบแก้กติกา อย่าอาย
เพื่อนร่วมชาติเราโง่ครับ ยอมรับซะจะได้แก้กติกากัน

ทำไมเราจึงไม่ให้ลิงบาบูนอายุ 18 ขวบมีสิทธิ์เลือกตั้งล่ะครับ
เพราะบาบูนไม่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะบาบูนไม่ใช่คนนะครับ
บาบูนเหนือกว่าบางคนด้วยซ้ำ บาบูนหากินเองได้ ไม่ต้องรอเอื้ออาทร
ไม่ต้องรอผ้าห่มทุกปี
ก็ถ้าบาบูนเรียนหนังสือสอบผ่าน ม.6 ก็แปลว่าพูดกับคนรู้เรื่อง
เราก็ควรให้สิทธิ์เลือกตั้งกับบาบูนครับ
แต่นี่มีโง่กว่าบาบูนอีกนะ พูดก็ไม่รู้เรื่อง สะกดประชาธิปไตยก็ไม่ถูก
ทำมาหากินก็ไม่ได้ ผ้าห่มก็หาเองไม่ได้ต้องแจกทุกปี
แต่ดันมีสิทธิ์เลือกตั้ง อย่างงี้บาบูนค้อนครับ

ถ้ากุลีมีสิทธิเท่าบัณฑิต บัณฑิตจะลงทุนเรียนกันไปทำไมไม่ทราบครับ
ประชาธิปไตยมันว่าด้วยเรื่องเสียงข้างมาก
ฉะนั้น ประเทศไหนที่เสียงข้างมากไม่มีการศึกษา ประเทศก็ล่ม
เพราะกุ๊ยซื้อกุ๊ยและกุ๊ยเลือกกุ๊ยแน่นอนครับ
พวกคอมมิวนิสนิยมก็สัพหยอกว่าพี่ตู้เป็น อำมาตยาธิปไตย
แต่พี่เต็มใจเป็น อำมาตยาธิปไตย มากกว่า กุ๊ยยาธิปไตย นะจะบอกให้
แต่เดี๋ยวนะครับ อำมาตยาธิปไตยมันไม่ดีตรงไหนหรือครับ
เทียบกับรัฐบาลรากหญ้าธิปไตยทุกวันนี้

มีคนเข้าใจสิ่งที่เข้าใจยากแบบนี้อยู่หยิบมือนึงบนแผ่นดินนี้
พี่ต้องทอล์คโชว์เพราะพี่ต้องการพูดคุยกับท่านเหล่านี้บ่อยๆครับ
อาจไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงวันนี้ แต่พรุ่งนี้จะไม่มืดมน
เพราะคนเหล่านี้จะเห็นทางออกไงครับ ถ้าไม่อวดเก่งกันนะ
พรุ่งนี้หมายถึงวันรุ่งขึ้น ไม่ใช่ปีรุ่งขึ้นนะ
เพราะทันทีที่รู้ทางออกก็บอกต่อกันแบบแอมเวย์
แป๊บเดียวก็เข้าใจกันหมดแล้ว ซัก 2 วันมั้ง
เพราะคนที่ฟังรู้เรื่องมีไม่ถึง 1 % ของประเทศ
ที่เหลือไม่ใช่โง่ แต่ไม่ฟังครับ ซึ่งก็ไม่ได้แปลว่าอวดดี เพียงแต่โง่

การเปลี่ยนแปลงแผ่นดินต้องทำให้เด็ดขาดครับ
ไม่ใช่ไล่ไปแล้วเลือกตั้งใหม่เพื่อให้พวกมันกลับมายิ่งใหญ่อีก
มันตลกและดูไม่เด็ดขาดไม่จริงใจนะครับ ซึ่งพี่ก็สรรเสริญ
ทุกการต่อสู้ของพันธมิตร เพราะชอบพอกันเป็นการส่วนตัวมาก
แต่พี่ไม่ไปวิ่งชนกระสุนเพื่อให้รากหญ้าเลือกพวกมันกลับมาอีก
คุณพ่อพี่สอนว่า อย่าให้คนไม่ดีมีโอกาสปกครองบ้านเมือง
เพราะฉะนั้น การขับไล่ ต้องตามด้วย การกำจัด
ซึ่งในอารยะประเทศเค้าใช้วิธีฆ่าทิ้งแบบเนียนๆ
แล้วแจงว่า ตายด้วยฝีมือคนวิกลจริต ซึ่งเรื่องก็เงียบ
แต่ในอนารยะประเทศซึ่งขี้ขลาด ก็ใช้วิธีนุ่มนวล
ซึ่งก็ตกเป็นเบี้ยล่างและสูญเสียเปล่า
เพราะกลับมาเหมือนเดิมทุกอย่างหลังทุกการต่อสู้
พี่หงุดหงิดทุกครั้งเพราะวีรบุรุษของพี่เหนื่อยเปล่าทุกครั้ง
เพราะไม่แก้ที่ระบอบไงครับ

การเป็นวีรชนด้วยอารมณ์มักไม่แก้ปัญหาครับ ต้องแก้ปัญหาด้วยเหตุผล
ซึ่งต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือ การโกงกิน การแตกแยก และ สิทธิที่ไม่ควรเป็นขั้นพื้นฐาน
ซึ่งพี่จะได้กล่าวรวมไว้ในช่วงท้าย ขยักเอาไว้ก่อนให้หงุดหงิดเล่นซะงั้น
เป็นการคัดคนอ่านไงครับ

ท่านใดที่อ่านถึงตรงนี้แล้วงง อย่าอ่านต่อนะครับเสียเวลาท่านเปล่าๆครับ
ท่านก็ตั้งหน้าตั้งตาเลือกคนดีต่อไปนะ

2. ชื่อของทอล์คโชว์ ‘กรุงไม่แตก ก็เลี้ยงไม่โต’ ต้องการจะบอกอะไรครับ เหมือน’ไม่เจ็บ ก็ไม่โต’ อย่างนั้นหรือเปล่าครับ ?

จะแปลอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่วลีที่ว่า ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต หมายถึง พิการ นะครับ
สังคมไทยพิการเพราะเราคิดว่าเราทำได้อย่างซีกโลกหนาวครับ
ลอกทุกอย่างของเค้ามา รวมทั้งระบอบการปกครอง
โดยลืมคิดไปว่าไม่มีนวัตกรรมของเราที่เค้าซื้อไปใช้เลย
มีแต่นวัตกรรมของเค้าที่เราซื้อมาใช้
เพราะเราไม่มีนวัตกรรมไงครับ
สิ่งของเครื่องใช้ในการอำนวยความสะดวกของชีวิตประจำวันประดิษฐ์คิดค้นโดย
คนซีกโลกหนาวแทบทั้งหมด
เพราะเราไม่กล้าคิด เรากลัวคนที่คิดไม่ออกจะทักท้วงเรา
เพราะคนที่คิดไม่ออกรู้ดีว่าถ้าทักท้วงแล้วจะดูเหมือนชนะในสายตาคนรอบๆ
ซึ่งก็คิดตื้นแบบเดียวกัน
จึงไม่มีกระบวนการคิดเกิดขึ้นในแถบซีกโลกร้อนที่ช่างทักท้วงครับ

มหาบุรุษอย่าง เจ้าชายสิทธัตถะ และ มหาตมะคานธี เท่านั้นครับ
ที่ฝ่าวงล้อมของนักทักท้วงได้สำเร็จ ด้วยจิตที่มั่นคง
การทักท้วงโดยที่คิดเองก็ไม่ออกเป็นวัฒนธรรมซีกโลกร้อนทีอยู่ในสันดาน
แก้ไม่ได้ครับ ทำให้เป็นประชาธิปไตยอย่างซีกโลกหนาวไม่ได้สักประเทศเดียว
แต่ก็อยากจะเป็นประชาธิปไตยเพราะหลงตนกันครับ
เหมือนการย้อมสีผมแล้วเป็นฝรั่ง

สังคมที่พิการเกิดจาก การแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ ไม่นิยมเหตุผล
แต่พี่เห็นพันธมิตรใช้เหตุผลแล้วก็ไม่ได้ผลนะครับ
เพราะต่อให้ใช้เหตุผลรัฐบาลหน้าด้านก็ไม่ลาออกครับ
เพราะรากหญ้าเลือกเค้ามาด้วยเสียงที่มากกว่าบัณฑิต
ซึ่งเราก็เถียงระบอบไม่ได้ เพราะบัณฑิต 14 ตุลาเอาอำนาจ
การตัดสินใจในเรื่องบ้านเมืองไปยัดให้รากหญ้า
ซึงพวกเค้าไม่อยากได้ และ เล่นไม่ถนัด

แต่พี่ว่าพวกเค้าเล่นถูกแล้วนะ
เพราะเค้าเลือกคนที่ให้เงินเค้า เพื่อตอบแทนบุญคุณ
ซึ่งเป็นการกระทำที่ถูกต้องในสายตาพวกเค้าเอง คือ การมีกตเวทิตาครับ
รากหญ้าหัวเราะเยาะพวกเราที่แห่กันไปเลือกพรรคนั้นพรรคนี้โดย
ไม่ได้อะไรตอบแทนเลย พวกเราก็ดูโง่ในสายตาพวกเค้านะครับ

การโกงกินไม่ใช่สิ่งที่ผิดในสายตารากหญ้าครับ
เพราะรอบหมู่บ้านเค้ามีแต่การโกงกินโดยผู้มีอำนาจมีฐานะ
และมีคนยกย่องด้วยเพราะรวยนี่ เป็นที่พึ่งของทั้งหมู่บ้าน กลายเป็นเทพไปเลย
แม้จะโกงมาก็ไม่ว่าเพราะทุกคนที่นั่นโกงแล้วได้ดีทั้งนั้น
ทุกห้องแถวทั้งในกรุงและบ้านนอกก็ทำอาชีพซื้อถูกมาขายแพงโดยไม่เสียภาษีทั้งสิ้น
ก็คือการโกงดีๆนี่เอง ไม่เห็นตำรวจจับนี่
เราเรียกร้องให้อุดหนุนร้านโชห่วยที่ไม่เสียภาษี
และขับไล่ แมคโคร โลตัส คาฟู ที่เสียภาษี
ทั้งๆที่ร้านโชห่วยก็เป็นของคนต่างด้าวเหมือนกัน บางร้านไม่พูดไทยด้วยซ้ำ
เราเห็นว่าผิดแต่รากหญ้าเห็นว่าไม่ผิด
เพราะเราดันยอมให้พวกที่คิดไม่เหมือนพวกเรามีสิทธิเลือกคนมาปกครองเราไงครับ
เราต่างหากครับที่เป็นฝ่ายที่ทำผิดมาตลอด
เรื่องอย่างนี้คนที่คิดได้เท่านั้นที่จะรู้
บางคนคิดไม่ได้ครับ คิดแล้วปวดหัวสลบเหมือดคาหลังควาย

ความไม่กล้าคิดทำให้ทุกสังคมพิการครับ
สังคมที่พิการจะล่มแล้วล่มอีก ลุกกลับขึ้นมาได้ก็ป้อแป้ เดี๋ยวก็ล่มอีก
โยนกก็ล่ม เชียงแสนก็ล่ม ล้านนาก็ล่ม ทวาราวดีก็ล่ม ศรีวิชัยก็ล่ม หริภุญชัยก็ล่ม
สุโขทัยก็ล่ม อยุธยาก็ล่ม ธนบุรีก็ล่ม
นี่ยังไม่รวม อ้ายลาว น่านจ้าว นะครับ
เพราะนักวิชาการหลัง 14 ตุลาบอกว่า ไทยไม่ได้มาจาก อ้ายลาว น่านจ้าว
เนื่องจากไม่ต้องการให้คนไทยคิดว่าเราโดนจีนรุกราน
เพราะพวกเค้ากำลังจะเอาลูกจีนเข้าสภาปกครองคนไทย
เราจึงเคยมีประธานสภาที่พูดไทยไม่ชัดมากันแล้ว
หัวหน้าพรรคก็มาจากแซ่แทบทั้งนั้น
พวกเขามาจากไหน ใยจึงมาปรารถนาดีต่อแผ่นดินที่ไม่ใช่ของบรรพบุรุษตน
ช่างประหลาดเหลือล้ำ แวะมาปรารถนาดีต่อแผ่นดิน 4 ปีก็ดันมีคนลงคะแนนให้
เรียกว่า พิการหมู่ ครับ

ถึงเวลาต้องคิดระบอบใหม่กันแล้วครับ
ถ้าไม่อยากให้อาณาจักรรัตนโกสินทร์ล่มอีก
ถ้าคิดไม่ออกจงรู้จักฟังนะครับ ฟังแล้วก็ไม่ต้องคิดด้วยครับ
เพราะเค้าคิดมาแล้วจะมาคิดทับอีกทำไม
ช่วยกันคิดของใหม่ซิ่ครับ มาคิดทับกันอยู่นั่น
คนไทยถนัดนักเรื่องคิดทับคนอื่น
ฝรั่งเรียก ขโมยซีน ไทยเรียกว่า ไทยมุง หรือ รุมสกรัม
หรือ หมาหมู่ นั่นเองครับ

3. พี่ตู้คาดการณ์ว่า บ้านเมืองของเราจะก้าวไปถึงจุดที่เรียกว่า ‘กรุงแตก’ หรือเปล่า เพราะอะไรครับ ?

4. ถ้ากรุงมันจะแตกหรือไม่แตก แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ ‘วิชาประวัติศาสตร์’ ล่ะครับ ?

5. ถามตรงๆ ทอล์คโชว์คราวนี้มีประเด็นหลักๆ เป็นเรื่องการเมืองใช่หรือเปล่าครับ เพราะอะไร ?

6. พี่ตู้มองความแตกต่างระหว่างเพลงเก่ากับนักการเมืองเก่ายังไงครับ ?
เช่น เพลงยิ่งเก่ายิ่งอมตะ แต่นักการเมืองยิ่งเก่า ก็ยิ่งเก๋าและโกงเก่งอะไรอย่างงี้เป็นต้น

http://ohhohe.com/sumo-too-interview

4. เพราะเทคโนโลยี ทุกอย่าง ตำราเกือบทุกอย่าง นั้นผมว่าสร้างมาจากฝรั่ง
แม้แต่ตำราเรียน เรายังแปลมาจากของฝรั่งเลย
อะไรที่เราบอกทำเอง เราก็ต่อยอดมาจากฝรั่งครับ
ผมก็ว่าฝรั่งฉลาด มากๆ

5. ง่ายๆ
พวกหลั่ง กล้าคิด กล้าเสี่ยง กล้าทำ
พวกเราเอเชีย กล้าคิด ไม่กล้าเสี่ยง แล้วก็ขี้เกียจทำ
จบ..

6. ฝรั่งไม่ได้ฉลาดกว่า แต่มีโอกาสแสดงความฉลาดและความสามารถออกมามากกว่าคนเอเชียโดยไม่ค่อยถูก หมั่นไส้ หรืออิจฉามั้งครับ อันนี้ผมคิดเองนะ

7. มีการส่งต่อองค์ความรู้ มีการยกย่องบุคคลในอดีตที่สร้างประโยชน์ให้ปัจจุบัน
หลายๆ สิ่งชาวเอเชียคิดได้ก่อน แต่เก็บไว้เป็นความลับในวงศ์ตระกูล สุดท้ายก็หายไป
แต่ชาวตะวันตก มีห้องสมุดมาเป็นพันๆ ปีแล้ว

8. ฝรั่งฉลาดๆ ก็มี
ฝรั่งโง่ๆ ก็มาก

เอเซียโง่ๆ ก็มี
เอเซียฉลาดๆ ก็มาก

แต่ฝรั่งที่พวกเราเจอในบ้านเราหรือในสื่อคือพวกหัวกะทิ ไม่งั้นไม่มีโอกาสมาให้เราเห็น
ส่วนฝรั่งหางกะทิจะอยู่เงียบๆ ในบ้านเขา เราไม่เจอแน่

ที่เมืองไทย คนจะชอบถามว่า ทำไม่ฝรั่งฉลาดกว่าเรา
ที่มหาลัยในเมกา นักเรียนพื้นที่มักถามว่าทำไงจะเรียนเก่งเหมือนนักเรียนเอเซีย
ข้อแตกต่างของเรากับเขา อยู่ตรงคำถาม

9. จากการศึกษาของฝรั่งเอง

คอเคซอย มีไอคิวเฉลี่ยประมาณ 100
มองโกลอย มีไอคิวเฉลี่ยประมาณ 105
นิโกรลอย มีไอคิวเฉลี่ยประมาณ 90

ความจริงคนเอเซียตระวันออกฉลาดกว่าฝรั่ง การเมืองและวัฒนธรรมทำให้ฝรั่งเจริญกว่า
ตอนที่จีนสร้างอนาณาจักรใหญ่โต ฝรั่งยังเอาใบไม้ปิดจู๋ เอาสีทาตัวอาศัยอยู่ในป่า

10. ความจริง นะ
มันไม่ใช่ฝรั่งฉลาดกว่า........
คนเผ่าพันธ์อื่น ๆ เลย
แต่สถานะการณ์ปัจจุบัน...........
มันทำให้คนคิดว่าเป็นเช่นนั้น

ถ้าไอน์สไตน์มาเกิดเป็นคนไทยในสังคมแบบปัจจุบัน
ไอน์สไตน์ก็จะเป็นเพียงคนแก่โง่ ๆ คนหนึ่งเท่านั้น
เพราะสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ
ไม่เอื้ออำนวยให้ความเป็นอัจฉริยะของเขาฉายแสงออกมาได้

ท่านเชื่อไหมว่าปัจจุบันมีคนเอเซียรวมทั้งคนไทย
ที่ไปเกิดและหรือเติบโตในอเมริกากลายเป็นบุคคลสำคัญ
และประสบความสำเร็จมีจำนวนมากมาย

ถ้าฝรั่งเป็นเผ่าพันธ์ที่แน่จริงอย่างท่านคิด ละก็
ลูกทาสอย่างโอบามา คนเผ่าสีมืดแห่งอาฟริกา
ก็คงจะไม่ได้เป็นประธาธิบดีของประเทศมหาอำนาจ
อย่างทุกวันนี้หรอก

ความเชื่อว่าฝรั่งเก่งกว่าตนในชาติอื่น ๆ นั้น
ยังฝังอยู่ในค่านิยมของคนไทย.......อย่างเหนียวแน่น
ขณะที่คนทั่วโลก.........
เขาเลิกคิดแบบนี้ไปนานแล้ว

ส.ว.ด. สวัสดี

11. ฝรั่งไม่ได้ฉลาดกว่าครับ

แต่มีระบบในการเก็บ ยอมรับ พัฒนา และต่อยอดความคิดที่ดีกว่ามาก

ความ รู้ในวัฒนธรรมของทางฝรั่งจะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่จับต้องได้ มีการถกปัญหา ความคิดต่างๆกันอย่างต่อเนื่อง มีการเก็บความรู้ต่างๆ และสืบทอดต่อกันมาให้คนรุ่นหลังเรื่อยๆ และเรื่องชนชั้นจะไม่มีผลต่อการแสดงความคิดมากเท่าของทางเอเชีย

ใน ขณะที่ทางฝั่งเอเชียความรู้จะถูกจำกัดไว้ที่คนจำนวนหนึ่ง การถกปัญหา จะถูกจัดกัดไว้ในวงแคบ หลายๆครั้งไม่มีการสานต่อยอด ความรู้ต่างๆแม้จะมีเก็บไว้บ้าง แต่ก็จะเก็บไว้ในกลุ่มเล็กๆ หรือบอกปากต่อปาก ทำให้หลายๆครั้งองค์ความรู้สำคัญต่างๆได้ขาดหายไปในประวัติศสตร์ และเรื่องชนชั้นจะมีผลต่อการแสดงความคิดเห็นมาก คนชั้นต่ำกว่าไม่สามารถแสดงความเห็นค้าน ผู้มีศักดิ์สูงกว่าได้ แม้จะเป็นเพียงคนใช้กับหัวหน้าคนใช้ก็ตาม ในขณะที่ทางฝรั่งขอทานโต้เถียงกับกษัตริย์ก็ยังเป็นไปได้

หรือจะเอาสั้นๆก็

ฝรั่ง > คนมีความสามารถได้รับการสนับสนุนได้ง่าย ยิ่งเก่งยิ่งได้รับการสนับสนุน
เอเชีย > คนมีความสามารถมักถูกมองข้าม และยิ่งเก่งยิ่งถูกกดหัว เพราะคนอื่นจะเก่งกว่าตูไม่ได้

และ จุดสำคัญที่สุด สังคมในเอเชียส่วนใหญ่ ไม่ได้ปลูกฝังให้คนใช้ความคิด และไม่เปิดโอกาสให้คนใช้ความคิดอย่างเต็มที่ครับ แม้แต่ในปัจจุบันก็ตาม ในขณะที่ฝรั่งปลูกฝังให้คนได้แสดงความคิดตั้งแต่เด็ก จนกลายเป็นคนช่างคิดไป

คงจะเข้าใจได้นะครับว่าสังคมที่พร้อมสนับสนุน กับสังคมที่มีแต่ขัดแข้งขัดขา สังคมแบบไหน คนที่เก่งจริงๆจะเกิดง่ายกว่ากัน

ปล. และเป็นไปได้ว่า คนเป็นอัจฉริยะหลายๆท่าน ไม่เป็นที่รู้จัก เพราะ ผลงานของท่านเหล่านั้นสูญหายไปในประวัติศาสตร์ ในขณะที่ฝรั่ง ใครทำอะไรมีบันทึกไว้ตลอด

12. ผมว่า ไม่ใช่ฟรั่งครับ อันนั้นมัน ยิว
แล้วจะว่าไป ฟรั่งดูท่าน่าจะ โง่ ด้วยซ้ำ
เพราะ เค้าสามารถ อยู่ในระบบ ได้ โดยไม่แหกระบบ
ดูๆ ครับ ดีไม่ดี ชนชาติที่ฉลาด มักจะฉลสดในการแหกกฏ ... และสร้างหายนะให้กับตนเอง... เหอๆ

13. สังคมตะวันตก เป็นสังคมจดบันทึก เขียน
ความรู้จึงไม่สูญหาย
มีการท้าทายสิ่งเก่าๆ
มี Thesis
แล้วมี Anti-thesis
สุดท้ายก็เป็น Synthesis
เกิดเป็นความรู้ใหม่ให้ท้าทายกันไม่สิ้นสุด
ความรู้เผยแพร่ในวงกว้าง ต้อง Publish สู่สาธารณะ
ความรู้ทั้งหลายต้องพร้อมเสมอสำหรับการท้าทาย โต้แย้ง ไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ๆ ที่ยิ่งใหญ่กว่า

สังคมตะวันออก เป็นสังคมปากเปล่า
มีบันทึกน้อยกว่าตะวันตกอย่างชัดเจน
จีน อินเดีย เขียนบ้าง
ความรู้ถูกเก็บสำหรับคนใกล้ชิด ของครอบครัว วงศ์ตระกูล หรือคนที่จงรักภักดี
ปรมาจารย์ต้องเลือกศิษย์อย่างเข้มงวด
เวลาผ่านไป ก็เลือนหายไป ไม่มีการต่อยอด ....

14. ฝรั่งยุคแรกๆก็ไม่ได้เจริญกว่าเอเชียครับ จะว่ากรีกหรือโรมเจริญ
อียิปต์ อินเดีย จีนก็เจริญพอๆกัน
ที่ฝรั่งมาเจริญมากๆในยุคหลังเพราะฝรั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมอย่างแรง
คือฝรั่งทำสงครามกับเติร์กและถูกตัดเส้นทางการค้ามาที่อินเดีย
ทำให้ฝรั่งพยายามเดินเรือเพื่ออ้อมทวีปอาฟริกามาอินเดีย
อีกพวกก็คิดอ้อมโลกเพื่อวนกลับมาที่อินเดีย
ทั้งสองทางพบความสำเร็จทั้งการอ้อมโลกและการค้นพบทวีปใหม่
ทำในสิ่งที่ใครๆก็คิดว่าไม่น่าจะทำได้ สำเร็จลงได้
ทำให้คนยุโรปมีความมั่นใจในตัวเองที่จะบุกเบิกพื้นที่ใหม่ๆ
แล้วมันก็เริ่มมีการแข่งขันกัน บุกเบิกและยึดครองพื้นที่
ยุคแรกสเปนแข่งกับโปรตุเกต ตามด้วยฮอลแลนด์และอังกฤษฝรั่งเศส
สุดท้ายเยอรมันกับรัสเซีย
พวกนี้สู้กับศัตรูที่โหดๆอย่างเติอร์กและพวกมัวร์มาแล้วและแม้แต่ศาสนาเดียวกันก็แยกนิกายแล้วรบกัน ทำให้การแข่งขันเข้มข้นเรื่อยๆ
การแข่งขันที่ดุเดือดทำให้เกิดแรงผลักดันให้ต้องพัฒนาไปอยู่ข้างหน้าศัตรู
การศึกษาสาขาต่างๆถูกผลักดันอย่างแรงเพื่อให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้
จุดจบสุดท้ายของการแข่งขันอย่างบ้าคลั่งก็คือสงครามโลกครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง

จะ เห็นว่าสมัยอยุธยาฝรั่งก็แค่มาติดต่อค้าขายและเผยแพร่ศาสนากับไทย สุดท้ายพอยุ่งกับการเมืองไทยมากๆก็ถูกขับไล่ไป แต่หลังจากนั้นแค่ประมาณร้อยปีเมืองไทยก็เป็นแค่ลูกไก่ในกำมือของฝรั่งเศส ผู้นำต้องดำเนินกุศโลบายมากมายรวมทั้งพยายามเปลี่ยนแปลงอีกมากมายเพื่อให้พอ สู้ได้ ผ่านไปอีกร้อยปีความแตกต่างกระเตื้องขึ้นมาบ้างแต่ก็ยังห่างอยู่ คาดว่าอีกร้อยปีในที่สุดไทยก็จะตามทัน แล้วคนจะเลิกถามว่าทำไมฝรั่งฉลาดกว่าเผ่าพันธุ์อื่น

มองไปทั่วเอเชียจะเห็นว่าประเทศญี่ปุ่นฟื้นและตามฝรั่งทันมากกว่าประเทศอื่นๆ
รถ ยนต์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากญี่ปุ่นออกขายมากมาย ทั้งๆที่ญี่ปุ่นเล็กมากเมื่อเทียบกับฝรั่งทั้งทวีป เนื่องจากญี่ปุ่นนั้นเน้นผลิตสินค้าด้วยตนเองและยังปรับตัวได้ไวเพราะเป็น ประเทศเล็กที่มีเอกภาพมาก ญี่ปุ่นใช้เวลาสี่สิบปีในการพัฒนาอุตสาหกรรมเหล็กจนไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี ต่างชาติและอีกหกสิบปีเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นระดับส่งออกขาย นี่คือประเทศที่เร็วมากแล้วแต่ก็กินเวลาไปเป็นร้อยปี

ในขณะที่ อินเดียนั้นประสบปัญหาถูกยึดครองซะนาน ส่วนจีนนั้นหยิ่งเกินไปทำให้ปรับตัวและพัฒนาได้ช้า แต่ในอนาคตจีนและอินเดียน่าจับตามองเพราะเป็นประเทศใหญ่ระดับอนุทวีปทั้งคู่

ส่วนไทยนั้นคงจะตามไปทีหลังเนื่องจากเราไม่รีบ
ใครฉลาดกว่าใครจึงต้องดูกันนานๆ

15.
^
^
เสริม ญี่ปุ่นเองก็มีสงครามภายในเป็นพันปีครับ ... ดังนั้นความสามารถในการแข่งขันและปรับตัวเค้าจึงสูง ... อีกทั้ง การที่เค้าเป็นสังคมปิด และอาจจะมีการโจมตีจากภายนอก(จีน)อยู่เรื่อยๆ ทำให้วัฒนธรรมเค้า แข็งมากๆ
ส่วนจีน สงบนานมาก แล้วก็หยิ่ง ก็เลยแพ้ในที่สุด

16. คนไทย ไม่ชอบให้โอกาสกัน ไม่กล้าเสี่ยง แต่ชอบพนัน
17. เพราะไทยยังมีคำว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" อยู่ไง ถึงได้ไปตักน้ำส้วมกินอยู่นั่น
18. ฝรั่งไหนฉลาด ? มันก็แค่พยายามมากกว่าเรา คิดแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยสติปัญญาของมัน
ไม่โทษเทวดาฟ้าดิน เจ้าที่เจ้าทาง น้่นโน้นนี่ สั่งสมความรู้มากกว่าเรา ส่งเสริมคนเก่งคนดีให้มีโอกาส
ไม่ใช่ส่งเสริมพวกเลียแข้งเลียขา ทำ งานจริงจังกว่าเรา ในเวลางานก็คืองาน ทำเต็มที
ทุ่มเทกับงาน ในงานไม่มีโคตรเหง้า ไม่มีเด็กฝาก ไม่มีพี่น้อง ไม่โกรธเวลาลูกน้องแย้ง
หรือเสนอความเห็นคัดค้าน ฯลฯ ผมว่าทุกท่านรู้ดี แต่ท่านก็ยังทำอะไรไม่ได้
ผมเห็นด้วยว่า อเมริกาคือดินแดนที่ให้โอกาสทุกคน
และคนที่กุมความสำเร็จต่างๆ ในอเมริกาทุกวันนี้ส่วนใหญ่เป็นยิว
และสุดท้าย ผมชอบพี่ตู้มากครับ ตรงใจมาก

19. 8000 ปีก่อน อารยธรรมแห่งแรกๆของโลกเกิดที่เมโสโปเตเมีย สมมติชาวข่าในแขวงสาละวันของลาวได้เจอพวกสุเมเรียน ก็คงตั้งคำถามว่า ทำไมชาวสุเมเรียนฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
5000 ปีก่อน อารยธรรมอียิปต์ขึ้นถึงขีดสุด พวกชนเผ่าเร่ร่อนในทะเลทราบอาหรับก็คงถามว่า ทำไมชาวอียิปต์ฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
2000 ปีก่อน โรมและราชวงศ์ฮั่น ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
พวกหาของป่าในแอฟริกาก็คงถามว่าทำไมชาวโรมันและชาวฮํ่นฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
1300 ปีก่อน ราชวงศ์ถังก้าวหน้าที่สุดในโลก พวกทู่เจี๋ยก็คงถามว่าทำไมชาวถังฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
1000 ปีก่อน อาหรับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสุด พวกชนเผ่าเร่ร่อนในเอเชียกลางก็คงถามว่าทำไมชาวอาหรับฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
150 ปีก่อน ยุโรปเรียกว่าแทบจะปกครองโลก คนที่ไม่ใช่ชาวยุโรปก็คงถามว่า ทำไมชาวยุโรปฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
อีก 4000 ปีข้างหน้า ประเทศซูดานอาจจะปกครองโลก คนชาติอื่นๆก็อาจจะตั้งคำถามว่า ทำไมชาวซูดานฉลาดกว่าคนชาติอื่นๆ
อันความเจริญและความตกต่ำนั้น เป็นวัฎจักร เฟื่องฟูและเสื่อมโทรมเป็นเรื่องปกติ

20. " เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมฝรั่งถึงฉลาดกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ "

" eลงกระดาษ และการเผยแพร่ได้ในวงกว้างเป็นเหตุผลใหญ่ของคำตอบนี้

เหตุผล ประกอบ...ก็อย่างเช่นธรรมชาติอันเป็นมิตรของชาวเรา (ไทย) ทำให้ไม่ต้องต่อสู้กับธรรมชาติ ยุโรปหนาวเย็นต้องวางแผน อย่างน้อยต้องเตรียม
อาหารไว้ในหน้าหนาว-บ้านเล็กในป่าใหญ่ ช่วงทำแฮม ทำอาหารอะไรเก็บ ความคิดเชิงวางแผนสร้างนักคิดที่มีข้อมูลจากการอ่านหนังสือที่เพิ่งพิมพ์ได้ พอดี

ส่วนต่อมานี้...ธรรมชาติอันโหดร้ายกว่าในตอนเหนือของโลกกว่า ช่วยคนให้สู้กับธรรมชาติ ธรรมชาติที่สวยงามจะทำให้คนดำเนินชีวิตให้สอดคล้องกับธรรมชาติ
มากกว่า ซึ่งดีกว่า แต่ถ้าไม่เข้าใจอาจสอดคล้องกับธรรมชาติแล้วนอนหลับสบายได้ ขี้เกียจได้ง่ายกว่า ต้องเข้าใจใช้เป็นจึงจะนำฝรั่งได้ซึ่งไม่ยากอะไรในการทำ
อุปสรรคไม่มาก เวลาต่อสู้กับธรรมชาติก็ไม่ต้องใช้มากนัก เวลาที่เหลือมาก แต่คงเข้าใจยากว่าเวลาเหลือมากกว่าทำอะไรดี เล่นเกมก็สนุกดี อ่านหนังสือก็อีกแบบ

และสุดท้าย...สู้กับธรรมชาติมากจนอยากรู้จัก ธรรมชาติ ก็คิดต่อยอดเป็นที่มาของ e=mc^2 diff intregrate สมการไฟฟ้า เทอร์โมไดนามิก สมการทุกอย่างในโลก
ส่วนความต้องการแก้ปัญหาจากการ รู้จักธรรมชาตินั้นจึงเกิดนักประดิษฐ์ขึ้น รถไฟ เครื่องยนต์ เครื่องจักรกล หลอดไฟ โทรศัพท์ จึงเกิดตามมา...

ขอไม่พูดถึงในยุคปัจจุบัน... เรื่องการศึกษาอะไรนั่น ต้องลองเข้าใจที่มาให้ชัดๆให้ได้ก่อน ถ้าหนึ่งผิด สอง สาม สี่ ห้า ถูกยาก หนึ่งยังผิดสองจะคุยกันรู้เรื่องหรือ
ชอบแนว กินแป้งแล้วโง่ พี่ตู้เลย เหมาะกัน นี่พูดอย่างรู้จักพี่ตู้ดี อย่างไรก็อย่างนั้นเป็นคนที่ฉลาดมาก แต่เท่าเดิมตลอด พูดอย่างเป็นแฟนพันธุ์แท้พวกถาปัดตัวจริง

สรุป...คนเราเท่ากันทุก ชนชาติ จีนมีไผ่มีกระดาษเจริญก่อน ยุโรปมีเครื่องพิมพ์หนังสือเจริญเร็วแรงจนปัจจุบัน เดี๋ยวนี้มีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงใช้แล้ว

เลือกอนาคตกันเอง...อนาคตเราเอง เราเลือกได้

21. "ทำไมเราจึงไม่ให้ลิงบาบูนอายุ 18 ขวบมีสิทธิ์เลือกตั้งล่ะครับ
เพราะบาบูนไม่เรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะบาบูนไม่ใช่คนนะครับ"
ชอบมากๆๆๆๆ

22. ผมว่าจขกท.กำลังพูดถึงคนสารขัณฑ์อยู่นะ
ขอตอบ สั้นง่ายๆ "ว่าคนสารขัณฑ์ไม่ชอบจดบันทึก" ความรู้ไหนที่คิดได้แล้วมันอาจทำอันตรายใหญ่หลวงได้ ถ้าไม่เจอคนที่ถูดใจหรือไว้ใจได้ ข้าก็ไม่สอนปล่อยให้วิชาตายไปกับตัว ไม่ให้ไปทำร้ายผู้อื่นอีก "มันก็เลยไม่มีการต่อยอด"

23. ตามความคิดผม

ไข่มนุษย์ห้อยอยู่นอกร่างกาย เพราะว่า อุณหภูมิที่ดีต่อการ ผลิต sperm นั้น ควรจะเป็นอุณหภูมิที่เย็นกว่า 37 องศา

> ต่างประเทศอ่ากาศเย็น
> คุณภาพ sperm ที่ดีกว่า
> ยิ่งตัวที่เก่งเยอะ โอกาสที่ตัวที่เก่งจะเจาะถึงรังไข่ได้ ก็เยอะ

เป็นอย่างนี้มาเรื่อยๆตั้งแต่โบราณ ก็จะมีแต่พันธุ์ ดีๆ

สังเกตุ ประเทศในเอเชียที่อากาศเย็น ก็เจริญ กว่าที่อากาศร้อนทั้งนั้น
ประเทศสิงคโปร์ ไม่เกี่ยวเพราะว่า มี ความหลากหลายในชนชาติมาก

24. ไม่คิดว่าในห้องหว้ากอ นี่ยังมีคนชอบความคิดของตู้ จรัสพงษ์

พันธิป คงเป็นอย่างที่เขากล่าวหาจริงๆแล้ว แม้ในห้องที่
เรียกได้ว่าเป็นคนมีการศึกษา แต่การศึกษาไม่ช่วยอะไรจริงๆ

ช่วยอย่างเดียว คือทำให้ความคิด เหยียดหยามผู้อื่นว่า
มีการศึกษาด้อยกว่าตน ไม่ใช่คนเหมือนกัน ไม่มีความคิด
เหมือนลิงบาบูน

แสดงว่าคนพวกนี้ เฮ้อ ผมก็เห็นคนพวกนี้ เป็นพวกล้าหลัง
มีความคิดศักดิ์ดินา ชนิดอยู่ร่วมกันไม่ได้เหมือนกัน
สำหรับพวกคุณแล้วคงไม่ต้องเสียเวลาพูดอะไรกันหรอก

ถ้ากับคนแบบ ตู้จรัสพงษ์ ผมใช้วิธีแบบเขาละครับ
เดินหน้าฆ่ามัน เพราะจากความคิดเขาแล้ว
ผมว่ามันชั้นต่ำยิ่งกว่าสัตว์เซลเดียว
ไม่เห็นความเป็นมนุษย์ในตัวมันเลย

และคนๆนี้ไม่ได้มีความคิดแบบประชาธิไตย
แบบที่สากลเขาเข้าใจกัน

25. ตู้ สุดยอด
โชว์องค์ความรู้ ที่เต็มไปด้วยความกล้า จริงๆ
ได้ใจชาวหว้ากอก็ตรงนี้ทีเดียวละครับ
นอกนั้น ผมว่าเห่ยสุดๆ
เหี้ยมด้วย
คือมองที่ความแต่ต่างทางคุณสมบัติ
แต่ไม่ได้มอง หนทางอะไร ที่เป็นชิ้นเป็นอันเลย
มีแต่ ฆ่า ไล่ ใช้ ทำลาย เพียงเพราะเขาโง่
แต่ก็ดี มีคนกล้าพูด โดยคั้นจากสัญชาติญาณดิบ
ไม่มีอะไรเสียหาย นอกจากความสะเทือนใจ
แต่ดันมีคนเชื่อนี่สิ แล้วถ้าเป็นพวกทหารด้วยแล้ว ยิ่งน่ากลัว ครับ

26. ชอบพี่ตู้จัง
โชว์ความโง่ และ ความคับแคบได้อย่างไม่อายใครจริง

27. ฝรั่งเพิ่งจะเก่งกว่าคนอื่นๆมาไม่นานเท่าไร คงตั้งแต่หลังปฏิวัติอุตสาหกรรม
ก่อนหน้านี้อยู่ในยุคมืดโง่มานานนับพันปี ตอนนั้น อาหรับ จีน อินเดียฉลาดกว่า
มีเจริญแล้วย่อมมีเสื่อมเป็นธรรมดา ต่อไปคนไทยอาจครองโลกก็ได้

28. มาอยู่เมืองฝรั่งก็เกือบจะสิบปีแล้ว
ไม่เห็นว่าฝรั่งจะเก่งกว่าเอเชียตรงไหน

ให้เทียบกันเป็นเปอร์เซ็นต์
เราว่าเราเจอคนเอเซียที่ฉลาดกว่าฝรั่งหัวขาวหลายเท่าตัว
เพียงแต่ฝรั่งหัวขาวที่คุณว่า มีโอกาสเยอะกว่า(แบบที่ คห ต้น ๆ ว่ามา)

29. 80% of american teenage think NOKIA's Japanese Brand.
30. มายกตัวอย่างฝรั่งโง่ เคยเข้าชั้นเรียนกับทหารอากาศฝรั่ง ระดับจ่าอากาศ
เขาเกณฑ์ให้ขึ้นพูดเรื่องอะไรก็ได้ ก็พูดไป 2 เรื่อง การผูกเงื่อน และเซล
ไฟฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนไม่รู้จัก Voltaic Cell และการผูกเงื่อนในวิชาลูก
เสือ เงื่อนตะกรุดเบ็ด เงื่อนพิรอดง่าย ๆ ก็ยังไม่รู้จัก
ฝรั่งงมงายเชื่อแม่มด ถึงขนาดเผาคนทั้งเป็นด้วยข้อหาเป็นแม่มด

31. ฝรั่งฉลาดกว่าีครับ เพราะมีระบบความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล มีระบบความคิดที่กล้าคิดกล้าทำ เป็นวิทยาศาสตร์ อีกอย่างผมคิดว่าฝรั่งเป็นพวกชอบผจญภัยฝังในพันธุกรรม จึงมักประดิษฐ์คิดค้นอะไรได้เพราะชอบสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ นิสัยไม่แคร์ใคร กล้าถกเถียงโต้แย้ง ที่สำคัญใจกว้างและยึดมั่นในหลักการ ฝรั่งชั่วๆเหยียดผิว วิปริตก็มีบ้างแต่เป็นส่วนน้อยทางสถิติ ด้วยนิสัยพวกนี้ทำให้เกิดพัฒนาการเป็นกระบวนวิธีวิทยาศาสตร์ซึ่งนำมาสู่การ ปฏิวัติอุตสาหกรรม หลังปฏิวัติอุตสาหกรรมก็กู่ไม่กลับแล้วครับ ความแตกต่างระหว่างสังคมวัฒนธรรมที่มีวิทยาศาสตร์เป็นกระดูกสันหลังกับสังคม อืนๆ ฝรั่งจึงพัฒนาออกห่างสังคมที่เหลือในโลกไปเรื่อยๆ

ที่จริง อากาศก็มีส่วนอย่างมาก ความอุดมสมบูรณ์กับศาสนาปรัชญาตะวันออกทำให้การพัฒนาทางวัตถุและการทะเยอ ทะยานเป็นสิ่งเกือบจะต้องห้าม อาหารก็มีพอแล้ว อากาศก็ดี ไม่ต้องดิ้นรนอะไร ความจำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยี่มีน้อยกว่า นั่นอาจทำให้เราพัฒนาช้ากว่ามากๆก็เป็นได้

แต่พอนึกถึงสมัยกรีกที่ อารยธรรมเจริญมากๆรวมถึงคณิตศาสตร์และเทคโนโลยี่ ผมก็เริ่มไม่แน่ใจว่าอากาศมีส่วนขนาดนั้น เอาเป็นว่าในตอนนี้ผมคิดว่าปัจจัยสำคัญที่สุดคือ ปรัชญาและศาสนาทางตะวันออกที่ไม่ส่งเสริมความทะเยอทะยานอย่างสิ้นเชิง ในศาสนาพุทธเรามีแนวคิดของอจิณไตยหรือความรู้ที่ไม่เกี่ยวกับการดับทุกข์ ซึ่งพุทธศาสนาบอกว่าไร้ความหมาย ไร้สาระ ไม่ควรนำมาคิด ในขณะที่ฝรั่งไม่มีการปิดกั้นทางทัศนคติเกี่ยวกับโลกทางวัตถุเช่นนี้ เค้าจึงมุ่งมั่นค้นหาหลักการของธรรมชาติ พัฒนาเทคโนโลยี่อย่างไม่ต้องกังวลใดๆ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี่ของพวกฝรั่งจึงเจริญก้าวหน้าอย่างมากในขณะที่โลก ตะวันออกหยุดนิ่งหรือแทบไม่มีการส่งเสริม

คณิตศาสตร์ที่นำมาใช้ใน วิทยาศาสตร์โดยพื้นฐานแล้วเี่กี่ยวกับการนิยามขึ้นมาหรือการสร้าง concept ขึ้นเป็นชุดๆแล้วพัฒนาต่อยอด concept อื่นๆต่อเนื่องไปเพื่อใช้บรรยายและจัดการควบคุมธรรมชาติ สิ่งเหล่านี้โดนปิดกั้นและไม่ถูกส่งเสริมโดยศาสนาและปรัชญาตะวันออกเพราะถูก มองว่าคือการยึดติดและไม่ใช่สัจธรรมที่จริงแท้

32. สำหรับความคิดมิจฉาทิฏฐิของไอ้ควายตู้ ผมมีคำตอบว่า
1. บาบูนไม่ใช่คน ถึงแม้ไอ้ตู้จะหน้าตาคล้ายบาบูนมากๆจริงๆก็ตาม
2. ต้องแยกสิทธิพื้นฐานออกจากสิทธิที่มาจากคุณสมบัติ แน่นอนว่าถ้าคุณจะเป็นนักบิน คุณต้องสอบผ่านคุณสมบัติต่างๆ ไม่ใช่ทุกคนมีสิทธิเป็นได้ทันที แต่ประเด็นที่สำคัญคือ ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับการฝึุก การเรียน การสอบเพื่อคัดเป็นนักบินได้เท่าเทียมกัน นี่คือสิทธิพื้นฐานที่ต้องมีในสังคมที่เป็นประชาธิปไตย
3. สิทธิพื้นฐานได้แก่ สิทธิทางการเมือง สิทธิในความยุติธรรม สิทธิทางการศึกษาระดับพื้นฐาน พวกนี้เรียกสิทธิมนุษยชน คือถ้าเป็นมนุษย์ทุกคนต้องได้รับเท่าเทียมกัน
4. สิทธิทางการเมืองรวมถึงการออกเสียงเลือกตั้ง การเลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่ประชาธิปไตยจะต้องมีการเลือกตั้งเป็นส่วนประกอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขาดไม่ได้ และเป็นพื้นฐานของกิจกรรมทางการเมืองที่สุด การที่รัฐจัดให้มีการศึกษาระดับพื้นฐานฟรีแก่พลเมืองทุกคนแล้วย่อมหมายถึง พลเมืองพร้อมและมีวิจารณญาณเพียงพอแล้วกับการออกเสียงทางการเมืองของตัวเอง

การศึกษาที่มากกว่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับสิทธิทางการเมืองระดับพื้น ฐานอย่างการออกเสียงเลือกตั้ง การศึกษาเฉพาะทางมีไว้เพื่อศึกษาเพิ่มเติมเฉพาะทาง ไม่ไ้ด้ทำให้คนฉลาดหรือมีคุณสมบัติออกเสียงได้หลายเสียงมากกว่าแต่อย่างใด เพราะมันไม่เกี่ยวกันเลย คุณไปเรียนจนจบเอกได้ปริญญามัน มันก็หมายถึงคุณมีความรู้ความเข้าใจเฉพาะทางมากขึ้น ไม่ได้เกี่ยวกับความรู้พื้นฐานทางการเมืองแต่อย่างใดเลย

คนอย่าง ไอ้บาบูนตู้คือพวกเรียนก็ไม่ได้เยอะมากแต่ดันกร่างไปด่าคนอื่นเป็นบาบูน ไม่รู้มันเหงาจะหาพวกหรืออย่างไร เกิดมาหน้าตาเหมือนลิงเลยไปฟาดหัวฟาดหางกับคนอื่น เอาความโง่มิจฉาทิฎฐิตัวเองมาตัดสินคนอื่นเฉยๆ ทั้งๆที่ัมันผิดอย่างถึงราก จำไว้บาบูนตู้ สิทธิพื้นฐานต่างกับสิทธิอื่นๆที่มาจากคุณสมบัติหรือความเหมาะสม และสิทธิทางการเมืองคือสิทธิพื้นฐาน ที่สำคัญไม่มีใครเป็นเทวดา ไม่มีใครเหนือกว่าใครในความเป็นคน ชนชั้นคือรากเหง้าแห่งความอุบาทว์ของสังคมไทยและโลก ถ้าคุณไม่เปิดกะลาของคุณเองตอนนี้ระวังถ้าเกิดการปฏิวัติระดับเดียวกับ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีนหรือแม้กระทั่งเขมร กลุ่มคนที่คุณด่าทอดูถูกความเป็นคนของพวกเค้าจะโกรธถึงขั้นฆ่าล้างชนชั้นคุณ ทั้งหมด สิ่งนี้เกิดขึ้นมาแล้วเพราะทัศนคติชั่วๆ[^_^]ของคนหน้าบาบูนอย่างคุณ ไอ้ตู้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น