วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

คิดแบบเด็ก ทำแบบผู้ใหญ่

อ้างอิง:
คิดเป็นเด็กๆ ทำแบบผู้ใหญ่คิดแบบคนส่วนน้อย

คิดแบบเด็ก


  • ไม่จำเป็นต้องกลัวข้อแม้
  • ไม่จำเป็นต้องคิดข้อจำกัด
  • ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม อดีตที่ผ่านมา
  • ไม่รู้จัก อะไรคืออุปสรรคที่จะเจอเพราะยังไม่ได้ผ่านอะไรมาก
  • สงสัยถามเลย ไม่อายโดนหัวเราะเยาะ
  • อยากได้อะไร ก็มีความอยากตลอดเวลา
  • ไม่คิดว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จทั้งสิ้น
  • คิดว่าฉันจะคิดของฉันแบบนี้แหละ ถูกต้อง
  • สนใจผลลัพธ์ที่ตัวเองจะทำ ไม่ค่อยคำนึงวิธีการ เนื้องานมาก

ทำแบบผู้ใหญ๋

  • มีแผนงานรองรับ
  • ทำแล้วมีเป้าหมาย มี Mile Stone เสมอ
  • มีระยะเวลากำหนด มี deadline
  • ทำงานหนักและฉลาด (Work hard and smart)
  • ลงไดอารี่ทุกครั้ง ผิดก็มาวิเคราะห์แผนงานและแก้ไข
  • มีการแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด

คิดแบบผู้ใหญ่

  • คิดมาก อยากรู้หมดก่อน ศึกษาให้หมดก่อน
  • ขี้สงสัย
  • คิดถึงแต่ข้อจำกัด
  • ชอบคิดแต่เงื่อนไข
  • คำนึงถึงทุกอย่าง ข้อดี ข้อเสีย ผิดพลาดไม่ได้
  • อยากทำอะไรยิ่งใหญ่อลังการ เมกะโปรเจค
  • (คิดว่า)รู้มาก
  • ถ้าพร้อมทุกอย่างแล้วถึงจะลงมือทำ
  • ชอบรอมากกว่าตัดสินใจ
  • คิดมาก
  • คิดแต่ข้อเสียก่อน
  • คิดถึงเนื้องานหรือวิธีการมากกว่าผลลัพธ์

ทำแบบเด็ก

  • ทำไปเรื่อยๆ ไม่มีเวลากำหนด (Deadline)
  • ทำแบบไม่คิด (Not smart) หรือทำแบบไม่ฉลาด
  • ทำแบบเล่นๆ ไม่จริงจัง
  • ผิดพลาดก็เลิกล้ม
  • ไม่มีทุน ไม่มีเครื่องมือก็ไม่ทำ ได้แต่คิด
  • ทำตัวโยเย งอแง
  • ทำแล้วเละเทะก็ไม่คิดจะแก้ไข ปล่อยไว้งั้น ทำอันใหม่
  • ไม่มีวุฒิภาวะ
  • ไม่มี Mile Stone แล้วเป้าหมายอะไรทั้งสิ้น
  • ทำแบบ "เรื่อยๆ"(ชาติหน้าก็ยังไม่สำเร็จ)

คนส่วนมาก หรือผู้ใหญ่ส่วนมาก คิดว่าตัวเองฉลาด รู้ทุกอย่าง อายุมากแล้ว ย่อมเหมือนอาบน้ำร้อนมาก่อน ทำตัวเหมือนรู้มาก บางคนก็จะ(แกล้ง)ทำตัวคิดแบบผู้ใหญ่ แต่ดูจากการกระทำแล้ว ดูเป็นเด็กๆ
มีเมกะโปรเจคมากมาย แต่ไม่มีปัญญาทำ ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีรายละเอียด ไม่มีอะไรเลย ได้แต่สร้างวิมานในอากาศ ก็เป็นแค่ ผู้ใหญ่ที่ทำตัวเหมือนเด็ก

ในขณะที่เด็กหลายคนมีวุฒิภาวะสูง แม้จะอายุน้อย คิดแบบเด็ก แต่เวลาทำมีแผนงาน มีเป้าหมาย จนทำให้ทำตามแผนงานได้ ทั้งโปรเจค โครงการต่างๆที่คิด
เราพบว่าคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน มีฝัน มีไฟ แบบเด็กๆ และมีการวางแผน มี know-how พร้อมเป็นฟืน จึงทำให้คนเหล่านี้ประสบความสำเร็จและ "แตกต่าง" จากชาวบ้าน(คำว่าความสำเร็จ ขึ้นกับนิยามแต่ละคนแต่รู้แต่ว่า คนส่วนน้อยเท่านั้นที่ทำตามที่เขาพูดสำเร็จ)

(คนสำเร็จไม่จำเป็นต้องรวย เพราะนิยามความสำเร็จแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพียงแต่คนเหล่านั้น "ความคิดคล้ายกัน") ให้เก็บไปคิดในใจว่า "คุณเห็นด้วยหรือไม่ก็บข้อความนี้ว่าคนสำเร็จมักคิดแบบเด็ก ทำแบบผู้ใหญ่"


คิดคำตอบไว้ในใจ

ถ้าตอบ "ไม่" แสดงว่าคุณไม่ใช่คนบนยอดพีระมิดความสำเร็จ 5% บนโลก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่ทำตามฝันและไม่มีแผนงานรองรับ หรือมีสิ่งที่อยากทำแต่ไม่มีแผนงานรองรับ ทำแบบขอไปทีตามมีตามเกิดแบบเด็กๆ ไม่มีเวลากำหนด ไม่มีรายละเอียด เลยเป็นได้แค่ ความเพ้อฝัน จึงไม่ได้อยู่บนยอดพีระมิด และเป็นคนส่วนใหญ่ของสังคมด้วย!

แล้วเราอยากเป็นคนส่วนใหญ่หรือส่วนน้อย ...คำตอบก็รุ้ๆอยู่
เด็ก 99% สอบคณิตศาสตร์เอนทรานซ์ได้ ต่ำกว่า 50%
เด็ก 97.5%ของเด็กไทยอ่อนฟิสิกส์
คนได้ A วิชาฟิสิกส์ในคลาสหนึ่งของมหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งมีน้อยกว่า 1% ...
F หรือดรอปกันเกือบ 40% อีกประมาณ 40% ที่เหลือ เกรด C , C+

คงไม่มีแม่คนไหนบอกลูกตัวเองว่าไม่จำเป็นต้องก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ขออวพรให้เป็นฐานพีระมิดต่อไป.... คิดว่าจริงหรือเปล่า

...ไม่ได้บอกว่าฐานพีระมิดไม่มีค่า แต่จะบอกว่า ไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องไปตามคนส่วนใหญ่

ต่างคนต่างทำหน้าที่ไป โอกาสเรามากกว่าที่จะก้าวขึ้นไปได้ก็ก้าว...ไม่มีความจำเป็นต้องเป็นคนส่วนใหญ่
เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวว่าเรื่องไหนคนส่วนใหญ่จะคิดไง สำคัญเราอยากเป็นส่วนน้อยหรือส่วนใหญ่มากกว่า
การที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับเรื่องหนึ่งไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นถูก
การที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องๆหนึ่งก็ไม่ได้แปลว่าสิ่งนั้นผิดเช่นกัน
เข้าใจว่าบ้านเราชอบระบบ เสียงส่วนใหญ่, คนส่วนใหญ่ มาก จึงทำให้ระบบตามคนส่วนใหญ่หยั่งรากลึก ยากจะแก้ไขความคิดได้ เพราะมัวแต่ตามๆกัน เลยเจ๊งเป็นแถบ
ชาเขียว โรตีบอย จตุคาม เป็นตัวอย่างที่ดีที่ให้เห็นว่าการตาม "คนส่วนใหญ่" อาจจะได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีตามต้องการก็ได้
แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องไปตามคนส่วนใหญ่ที่ไม่ใช่ยอดพีระมิด

ไม่งั้น โลกนี้คงไม่มีคนส่วนน้อย ที่ทำหน้าที่ใหญ่ๆในโลกใบนี้ เช่น หมอ แพทย์ วิศวกร เพราะมัวแต่ตามคนส่วนใหญ่คือเอนท์ไม่ติดตามคนส่วนใหญ่
จึงมีคำกล่าวว่า
อย่าดูถูกเด็ก เพราะเด็กเหล่านั้นแหละที่มีฝันและความคิดที่ดูเพ้อฝัน แต่ถ้าเป็นจริงได้ คนอื่นจะต้องยกย่องเขา
พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ก็เป็นยุวกษัตริย์ที่ครองยุโรปได้หมดและขยายดินแดนไปถึงอินเดีย และอียิปต์


เพราะอายุ ก็แค่บอกว่าเราอยู่บนโลกนี้มานานแค่ไหน ไม่ได้บอกว่าทำอะไรมามากน้อย สำเร็จหรือไม่เท่านั้น

สิ่งที่เขียนมาทั้งหมดไม่ได้ดูถูกใครทั้งสิ้น แต่มันคือ "ความจริง"
ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย
เพราะมันก็จริงอยู่แล้ว
มันคือ สัจจะนิรันดร์

อยากเป็นคนส่วนใหญ่ หรือส่วนน้อย เลือกเอาเอง...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น